ไปฝึกโยคะที่มัยซอร์ อินเดีย ตอนที่5 – Tips for trip to Mysore, India

ตอนที่ 5 ใช้ชีวิตที่มัยซอร์  (ย้อนไปอ่านตอนที่ 4 ที่นี่)

หนึ่งเดือนที่ออยอยู่ที่นี่ ชีวิตส่วนใหญ่วนเวียนอยู่ในรัศมีไม่เกิน 1 กม.รอบชาลาของชาราท (สถานที่ฝึก) เพราะทุกเช้าสัปดาห์ละ 6 วันต้องไปฝึกที่ชาลา ตอนเที่ยงมีคลาส Sanskrit chanting ก็ที่ชาลาอีก วันเสาร์เที่ยงมี Conference ของชาราท (ชาราทพูดให้ฟังแล้วเปิดโอกาสให้ถาม) ทำให้หนีไม่พ้นที่จะเลือกที่พักที่ไม่ไกลจากชาลา อีกทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ หรือเรียกง่ายๆว่าแหล่งความเจริญ ก็จะอยู่รอบๆชาลา ยิ่งได้ที่พักใกล้ชาลแค่ไหนก็สะดวกสบายเท่านั้น (ราวกับอยู่กรุงเทพแล้วอยู่สุขุมวิท แนวรถไฟฟ้า ประมาณนั้นเลย)

IMG_1799

บ้านแต่ละหลังบ้าน Shala road ไม่ได้ไก่กานะ หลังใหญ่ๆ ทั้งนั้น ดูอย่างหลังนี้

ออยเองชอบโลเคชั่นแถวสามถนนที่ขนานกันคือ 1st Main Rd. + Shala road + 7th Cross Rd. เพราะเป็นศูนย์กลาง จะเดินทางไปไหนก็สะดวก areaดูปลอดภัย มีร้านขายของที่จำเป็น มีจุดจอดRickshawให้เรียกใช้บริการได้ง่ายๆ มีร้านอาหาร , ถ้าเลือกบ้านได้ ปีหน้าอยากได้แถวนี้ หรือไม่ก็บริเวณที่ 1st Main Rd. ตัดกับ 7th Main Rd. ก็ชอบ

 

ออยลองร่างแผนที่แหล่งความเจริญใกล้ๆชาลาที่ออยไปบ่อยๆมาให้ดู บางร้านอยู่มานาน บางร้านเพิ่งเปิด ร้านไหนไม่เคยไป ไม่รู้จริง ก็ไม่เอามาเล่านะคะ

Mysore_Map.001.jpg
แผนที่ ชาลา ร้านอาหาร ร้านขายของ จุดจอดRickshaw ที่จะทำให้การใช้ชีวิตที่นี่เป็นไปอย่างมีความสุข สะดวก

imgres-1.png  ชาลา

imgres-3.pngร้านอาหาร

imgres-5.png  ร้านขายของชำ ร้านผลไม้

Screen Shot 2016-03-27 at 1.38.13 PM.png ร้านขายของฝาก หรือ บริการอื่นๆ ที่จะทำให้ชีวิตสดใส มีอะไรสนุกๆทำ

imgres-2.pngcoconut stand ขายมะพร้าวลูกละ Rs.20 แฉะให้กินทั้งน้ำและเนื้อตรงนั้นเลย

Screen Shot 2016-03-27 at 1.41.15 PM.png  Rickshaw stand  คล้ายๆจุดจอดวินมอเตอร์ไซต์บ้านเรา แต่ที่นี่เป็นที่จอด Rickshaw

 

ชาลาของชาราท (K. Pattabhi Jois Ashtanga Yoga Institute) ที่ๆเรามาเกือบทุกวัน บางวันสองรอบ บางทีใช้เป็นที่นัดเจอเพื่อน มันเป็นศูนย์กลางและมีแหล่งความเจริญอยู่ใกล้ๆ

12795336_10209526831305602_1006321770531832404_n
ชาลาของชาราท (Sharath ‘s shala)
IMG_1972.jpg
บรรยากาศ คลาส Sanskrit chanting ที่ชาลา

ชาลาของสาราวตี (Sarawathi ‘s shala) ที่ๆแม่ของชาราทใช้สอนทุกเช้า ใครเลือกเรียนกับเธอ ก็มาเรียนที่นี่ ออยมีโอกาสไปกินเค้กที่นักเรียนของสาราวตีทำขายในวันเสาร์ ชาลาก็คือบ้าน เค้าฝึกกันชั้นสอง เรานั่งกินเค้กชั้นหนึ่ง

ร้านอาหาร มีอยู่ไม่กี่ร้านแถวๆนี้ที่ ออยเล่าให้ฟังพร้อมภาพที่ละร้านเลยละกันนะคะ

สามร้านแรกเป็น Yogi cafe ที่ขายอาหารเช้า คล้ายๆกัน เบื่อร้านนึงก็ไปอีกร้านนึง หรือ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น

Anokhi cafe (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์1)  – มองภายนอกเหมือนบ้านเดียวหลังใหญ่ อยู่ริมถนนใหญ่ Contour Road เป็นร้านขายอาหารเช้า Brunch เปิดสายๆ บ่ายก็ปิดแล้ว ขายอาหารเช้าแบบ Vegan และ Vegetarian แนว Western มีน้ำปั่นขายด้วย Ashtangiต่างชาติเค้ามานั่ง HangOut กันที่นี่ เล่นเน็ต คุยกัน บางที่ก็มีโยคีต่างชาตินี้ล่ะมีเปิด pop-up store ขายของ ราคาหนึ่งคนอิ่ม 150 – 200 Rs. ช่วงที่ออยไปเค้าเปิด พฤหัส-อาทิตย์ 11.00 – 13.00 (เช็ควันและเวลาเปิดปิดได้หน้าร้านอีกที)

Kushi (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์3) – บ้านหลังเล็กบนถนนที่ขนานกับชาลา ดูให้ดีมีป้ายเล็กๆเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่านี่คือร้านอาหารเช้า เปิด 8.00 มีอาหารเช้า Brunch แบบVegan และ Vegetarian แนว Westernมีน้ำปั่นขาย คล้ายๆ Anuki cafe แต่ออยว่าเมนูเค้าหลากหลายน่ากินกว่า โยคีก็ไปนั่งคุยกัน เล่นเน็ตกัน โลเคชั่นร้านนี้ดีใกล้ชาลามาก เข้าไปนั่งแล้วเย็นสบายแม้ว่าจะเป็นเดือนมีนา

 

IMG_1760.jpg
Kushi เหมือนบ้านหลังนึง ดูไม่ออกว่าขายอาหาร
IMG_1723.JPG
เหล่าโยคีจากต่างแดนนั่งhang out, เม้ามอย, เล่นเน็ต, อ่านหนังสือ, กินbruch @kuchi
IMG_1761
Brunch สำหรับโยคี ประกอบด้วยเต้าหู้ผัดน้ำมันน้อยๆกับผัก  @Kuchi
IMG_1724.jpg
Omelet ก็อัดผักมาแน่น กินกับน้ำส้ม หรือจะสั่ง Multi-grain bread มาเพิ่มไฟเบอร์อีกก็ได้ @Kuchi

 

Santosha (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์8) – บ้านหลังเล็กๆ สีเหลืองส้มสด อยู่ตรงหัวมุมถนน ตรงข้ามกับโรงเรียน ห่างจากชาลานิดเดียว เสิรฟอาหารเช้า Brunch แบบVegan และ Vegetarian แนว Western เช่นกัน อีกทางเลือกที่คล้ายๆ Anuki cafe และ Kushi มีเน็ต นั่งเล่น นั่งเม้าท์ไปได้ ลมเย็นๆ

@Santosha

Anu cafe  (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์2) – มี Thali Buffet อาหารสไตล์อินเดียกลางวัน 13.00  และ Banana smoothie ใส่ topping ตามที่เราชอบ เช่นมะพร้าว Figs dates ตอน 17.00  – 19.00 บรรยากาศดีมาก นัดคุยกับเพื่อนบนดาดฟ้า วิวต้นมะพร้าว ลมเย็น พระอาทิตย์ค่อยตก , ช่วงที่ออยไปเค้าปิดวันอาทิตย์ ร้านที่เป็นบ้านของ Ganesh ที่เป็นทั้ง Agent หาบ้าน หารถรับส่งให้โยคีทั้งหลาย อร่อย สะอาด บรรยากาศดี

โยคีมาสั่ง Banana Smoothie กินกันตอนห้าหกโมงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกที่ Anu cafe IMG_2045

IMG_1893.jpg
Thali Buffet @Anu cafe

Le Petite France (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์4) – ร้านอาหารชื่อฝรั่งเศส แต่เมนูไม่ฝรั่งเศสอย่างที่คิด เหมือนอาหารอเมริกันกินง่ายๆทั่วไป อย่าง สลัด แซนวิช เบอร์เกอร์ เครป สเต็ก ที่พิเศษคือมีเมนูไก่ (ที่มัยซอร์หาเนื้อสัตว์กินค่อนข้างยาก)

Le Petite France อาหารที่สั่งมาเหมือนอาหารฝรั่งเบสิค ไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนชื่อร้าน

Depth N Green (บนแผนที่ วงกลมสีส้มเบอร์5) – ร้านโปรดของออย อยู่ริมถนนใหญ่ เมนูมีให้เลือกไม่มากนัก แต่เสริฟอาหาร vegetarian ทั้ง western และ india , มีเครื่องดื่มร้อนและเย็น บางทีมีเค้กและขนมขายด้วย เจ้าของร้านเป็นคนอินเดียที่ดูทันสมัย ผมskin head อัธยาศัยดี  ร้านเปิดตั้งแต่เช้ายันเย็น ปิดสัปดาห์ล่ะแค่ 1 วัน, ออยจะไปร้านนี้เสมอถ้าไม่รู้จะกินที่ไหน

บรรยากาศ และ อาหาร @ Depth and Green

Chakra house  ถ้าร้านอื่นๆปิด เลือกมาที่นี่ มีทั้งอาหารเช้า กลางวัน เย็น มีทั้งนั่งพื้นแบบโยคี นั่งโต๊ะแบบWestern อาหารก็มีทั้งฝรั่ง อินเดีย แต่ก็ยังคงเป็น Vegetarian , โลเคชั่นดีอีกต่างหาก ใกล้ชาลาและ Gokulam coconut stand , มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีเหมือนกัน, นั่งเล่านั่งคุยกับเพื่อนใหม่ๆได้นาน ไม่มีใครมาเร่งเรา

Om cafe ร้านเล็กๆอยู่ที่มุมเล็กๆ เดินลงSlopeจากถนน Contour เมนูมีอาหารอยู่ไม่เยอะ แต่ก็อร่อยดี ทั้งอาหารอินเดีย อาหารฝรั่ง เดินจากGokulam coconut stand ไม่ไกล

ทำอาหารกินเอง จากเมืองไทยซักพักจะอยากอาหารไทย หรือ บางทีการที่เราอยู่นานเป็นเดือน เราก็อยากอยู่บ้านสบายๆ ทำอะไรง่ายๆกินโดยไม่ต้องออกไปข้างนอกบ้าง เพราะฉะนั้นการเลือกเช่าห้องที่มีครัวหรืออย่างน้อยมีเตาแก๊ส กะทะ ตู้เย็น ก็ช่วยให้เราทำอาหารกินได้เอง ออยเองตอนอยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้ทำอาหาร แต่พออยู่มัยซอร์ ก็ทำอะไรง่ายๆ อย่างต้มไข่กินตอนเช้า ไข่เจียว กระเพราเห็ดไข่ดาว เห็ดทอดกระเทียมพริกไทย และหุงข้าวโดยใช้หม้อตั้งไฟบนเตาแก๊สได้ , ส่วนผักสด พริก มะนาว ผลไม้ต่างๆ หาซื้อได้ตามข้างทางทั่วไป มีเร่ขายตะโกนขายถึงหน้าบ้านก็มี, เครื่องปรุงอย่างน้ำปลา ซอสอะไรไทยๆ เอาไปด้วยก็ได้ หรือจะไปซื้อที่ Nature nectra (ร้านขายของชำ บน Contour Roadใกล้ๆ ชาลา ก็มีขาย) , ข้าวอินเดีย ก็หุงมาคล้ายๆข้าวไทย ถึงจะไม่อร่อยเท่า , ถ้าจะเอาอะไรที่หายากหน่อย ให้ไปซื้อที่ Royal World ซึ่งจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ต แบบที่ดีที่สุดในละแวกนี้ให้ซื้อทั้งของสดของแห้ง, เนื้อหมู ไก่ ปลา หายากหน่อย แต่ถ้าอยากกินจริงๆก็มีร้านที่ขายอยู่ แต่หาไม่ง่าย กินเห็ด กินถั่วง่ายกว่าเยอะ

ร้านขายของชำ ร้านขายของๆที่นี่ มีอยู่ทั่วไป ยิ่งใกล้ๆชาลา ยิ่งมีร้านหลากหลายรูปแบบ ขายของหลายอย่าง ทั้งที่เป็นของกินของใช้จำเป็น อย่าง สบู่ แชมพู น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน ยี่ห้ออินเตอร์ ขนม ไอศกรีมก็มี และของที่แปลกๆสำหรับคนไทยอย่างเรา อย่างร้านChololate man (ใน Map สี่เหลี่ยมเขียวเบอร์ 1 อยู่หัวมุมถนน 4th main ตัดกับ 7th cross) เค้ามี Almond milk , Coconut milk ทำสด โยคีที่นี่ก็ดื่มกันสดๆอย่างนั้น  ร้านNature Nectar  (ใน Map สี่เหลี่ยมเขียวเบอร์ 2 บน Contour Road) เป็นร้านห้องแอร์เล็กๆขายของสดของแห้ง imported มีน้ำปลา น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ มีเนื้อสัตว์แช่แข็ง ไอติม ขายด้วยที่ร้านนี้ พรีเมี่ยมค่ะร้านนี้ ขายของแพงๆ แต่เข้าไปเดินเล่นแล้วก็สุขใจดี

 

ร้านขายของชำใกล้ Gokulam Coconut Stand บริเวณนี้มีทั้งร้านขายยา ร้านขายซิมโทรศัพท์

หน้าตาร้านChocolate man ร้านขายของชำที่เจ้าของมาพูดคุยกับลูกค้าเอง มีAlmond milk สดๆ ,บางทีมีเค้กHome made organic, นมวัวสดๆที่คนขายบอกว่ามาจากวัวสองตัวที่อยู่ในหมู่บ้านที่ห่างจากที่นี่ไป 17 กิโล

Natures nectar ร้านขายของชำพรีเมี่ยม เคยได้เดินเล่นก็มีความสุขแล้ว

 

     ร้านขายของ Organic อยู่ตรงข้ามกับชาลา จัดวางของสวยน่าซื้อมาก ไว้ให้โยคีช็อปโดยเฉพาะ

 

ใกล้ๆ ร้านอาหาร Deep and Green มีผักผลไม้สดๆ ราคาไม่แพง เพราะไม่ได้เน้นขายให้คนต่างชาติ พริก หอมแดง กระเทียม มีครบ

Mysore_Map.001

ร้านขายของโยคะ อะไรอินเดียๆ เสื้อ ผ้ารองเสื้อ มาลา หนังสือ  

ดาวสีชมพูเบอร์ 2  “Green House” บน Shala Road ขายหนังสือโยคะ ของขลังแบบอินเดีย ของราคาไม่ถูก แต่ก็น่าไปเดินเล่นๆ

ดาวสีชมพูเบอร์ 3 “Vastha” ขายผลิตภัณฑ์ทำมือจากผ้าฝ้าย อย่าง ย่าม ถุงใส่เสื่อ กางเกง เดรส ผ้าห้อยกรอบประตูแบบอินเดีย ถ้าหาของฝากไม่ได้ ให้ไปร้านนี้ ของราคาไม่แพงนัก

ดาวสีชมพูเบอร์ 4 “Sliver nest” ขาย Mala beads เป็นหลัก เลือกซื้อที่มีโชว์อยู่ หรือสั่งทำตามแบบที่อยากได้ แต่คนรับออเดอร์จะดุนิดนึง ไปแวะดูได้ มีของสวยๆ ไปนั่งคุยกับเพื่อนเย็นๆในบ้านเค้า

ดาวสีชมพูเบอร์ 5 ร้านขายเสื้อผ้าแบบอินเดีย ทำในอินเดีย displayของหลวมๆ เก๋ๆ ของราคาไม่ถูก แต่ถ้าว่างๆก็แวะมาดู

นวด , healer, therapy  ละแวกชาลามีร้านนวดหลากหลายรูปแบบ , จับชีพจรตรวจโรค, suction cup , แพทย์แผนอินเดีย ชอบแบบไหนก็ไปลองได้ อยู่ที่นี่เวลาว่างเยอะ

IMG_1812

ร้านนวดน้ำมัน ชื่อ Swasthiใกล้ชาลา ที่ออยไปใช้บริการมา 1ชม. 45 นาที 1700 Rs. เกินคุ้มมาก ใช้ therapist พร้อมกันสองคน ดูแลเราราวกับเจ้าหญิง ชอบมากค่ะ

ห้างสรรพสินค้า Royal World ห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เกต มีแอร์ ที่ใหญ่ที่สุดแถวนี้ (ใหญ่ประมาณ Community mall เล็กๆในกรุงเทพ) ห่างจากชาลาประมาณหนึ่งกิโล แต่คิดว่าเดินก็ไกล ออยนั่งRickshawไปประจำ ที่นี่มีของที่เราหาไม่ได้จากที่อื่นๆ ราคาตามป้าย ไม่ต้องโดนโก่งราคา ออยได้ราวตากผ้า ไม้หนีบทำจากโลหะอย่างดี เพื่อนออยซื้อหม้อหุงข้าวเล็กๆ ปลอกหมอน ใส่หมอน ผ้าปูที่นอนจากที่นี่

Royal World ห้างที่หาได้แถวๆนี้ มีซุปเปอร์มาร์เกต์ ผลไม้ผัก สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตบางอย่าง

สถานที่ท่องเที่ยว โยคีต่างชาติเค้าไปเที่ยวภูเขา น้ำตก นั่งรถ ซื้อทัวร์กันไป แต่ออยไปไกลสุด ก็แค่ 10 นาที 100 Rs. ไปโดย Rickshaw ไป Mysore palace ใหญ่สวยงาม แม้มองจากด้านนอก และไปตลาดDevaraja ที่อยู่ไม่ใกล้จากMysore palace เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ทำให้เราเห็นถึงความเป็นอินเดียจริงๆ มีผักผลไม้ ดอกไม้ไส้ธูปสีสด คนอินเดียแบบท้องถิ่นจริงๆ

  ตลาดDevaraja ขายปลีกด้วย มีทุกอย่างที่คนอินเดียต้องการเอาไปทำกับข้าว

เรียนพิเศษ เวลาว่างเยอะ การหากิจกรรมที่ชอบทำเป็นสิ่งที่น่าทำ ออยใช้เวลาหลังฝึก เรียนHarmonica เป็นเครื่องดนตรีอินเดียคล้ายเปียโนอันเล็กๆ เรียนทำอาหารอินเดีย เรียนผสมยาด้วยสมุนไพรที่หาได้ในบ้านแบบง่ายๆ แต่ถ้าใครชอบเรียนนวดAyuveda, เรียนภาษาสันสกฤต ก็มีใครเรียน ลองหาดูค่ะ ใช้เวลาที่นี่ให้คุ้มที่สุด

เรียนทำอาหารอินเดีย เพื่อให้รู้ว่าที่กินอยู่ทุกวันนี้มันคืออะไรบ้าง ไม่คาดว่าจะทำได้เอง

IMG_2029.jpg

เวลาว่างอยากเรียนเปียโน แต่เจอสิ่งนี้ Harmonica เครื่องดนตรีอินเดีย

ไปดูดนตรีอินเดีย เล่นโดยโยคีฝรั่ง ผู้ฟังดูอินมาก โยกเบาๆไปตามจังหวะเพลงที่คล้ายสวดมนต์ซ้ำๆ ออยไม่อินโยกไม่ได้จริงๆ แต่ถือว่าบรรยากาศดี นั่งฟังอยู่บนดาดฟ้า

ค่าใช้จ่าย ออยไป 1 เดือนมีค่าใช้จ่ายจำเป็น 50,000 บาท ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีก 10,000 บาทดังนี้

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ AirAsia 10,000 บาท
  2. ค่ารถแท๊กซี่ไป-กลับ สนามบินบังกาลอร์-มัยซอร์  3,000 บาท
  3. ค่าเรียนกะ Sharath 17,000 บาท
  4. ค่าเช่าบ้าน รวมน้ำไฟ  7,500 บาท
  5. ค่ากินอาหาร ซื้อของมาทำกินเอง แบบอยากกินอะไรไม่ต้องกลัวเปลือง + ค่าrickshawเมื่อขี้เกียจเดิน 10,000 บาท
  6. นอกนั้นเป็นซื้อของ จำไม่ได้ว่าหมดไปเท่าไหร่ ซื้อ Mala beads, ผ้ารองแมท, งานฝีมือ, หนังสือ, และอื่นๆที่ชอบ ไปนวด 850 บาท เรียนHarmonica 1,500 บาท เรียน Ayuveda 1,000 บาท

สรุปแล้วทริปนี้ออยมีความสุขมาก วันๆมีแค่การฝึกที่เราชอบอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็มีเวลาว่างที่เราได้ทำสิ่งที่ไม่เคยมีเวลาทำที่กรุงเทพ Season หน้าไปอีกแน่นอนค่ะ กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรในได้อยู่ 2 เดือน

หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปมีประสบการณ์ที่มัยซอร์นะคะ

ออย จิดาภา

 

 

Leave a comment